ดราม่านาทีสุดท้าย

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ สวมบทซูเปอร์ซับยิงจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพาแมนเชสเตอร์ ซิตี เอาชนะ ฟูแล่ม ไปแบบหวุดหวิด 2 – 1 ทั้งๆ ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 หลังจาก ชูเอา คันเซโล โดนใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรก และชัยชนะนัดนี้ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงเป็นการชั่วคราว โดยมีแต้มนำหน้า อาร์เซนอล ที่จะลงแข่งในคืนวันอาทิตย์อยู่ 1 แต้ม
ประวัตินักเตะ

เรือใบเปิดบ้านรับฟูแล่ม กับเกมที่ต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกแรก

ศึก พรีเมียร์ ลีก นัดที่ 13 ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดสนาม “เอติฮัด สเตเดี้ยม” ต้อนรับการมาเยือนของ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม โดยเกมนี้ “เรือใบสีฟ้า” ส่ง ชูเลียน อัลบาเรซ ลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรอง

เริ่มครึ่งแรกมา 16 นาที แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เริงร่ากันก่อน จากจังหวะ อิลคาย กุนโดกัน โชว์คิลเลอร์พาสสุดสวยเข้าทางของ ชูเลียน อัลบาเรซ ซัดเข้าไปไม่เหลือ เกมทำท่าว่าจะง่ายสำหรับเจ้าบ้าน แต่แล้วในนาที 26 ฝันร้ายของ แมนฯ ซิตี ก็มาเยือนหลังจากที่ ฟูแล่ม ได้จังหวะแทงทะลุช่องให้ แฮร์รี่ วิลสัน กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตู แต่กลับโดน ชูเอา คันเซโล่ กระแทกจากด้านหลังกรรมการชี้เป็นจุดโทษทันที พร้อมกับควักใบแดงไล่ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสออกจากสนาม ก่อนที่ อันเดรียส เปร์เรร่า จะรับบทสังหารจุดโทษเข้าไป จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 1 – 1

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเริ่มทำเกมลำบากขึ้น ทำให้ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจส่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ลงสนามในนาที 63 และแล้วการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ก็เกือบประสบความสำเร็จ จากจังหวะที่ กุนโดกัน เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษและเป็น ฮาแลนด์ โขกเข้าไป แต่หลังจากเช็ค VAR พบว่าดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว เกมกำลังจะจบลงด้วยผลเสมอแต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+5 เจ้าบ้านก็มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ โดนสกัดล้มในเขตโทษและเป็น ฮาแลนด์ ที่อาสาขอยิง ก่อนจะซัดเข้าไปตุงตาข่าย จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือน ฟูแล่ม ไป 2 – 1 กระโดดขึ้นไปนั่งจ่าฝูงแทนที่อาร์เซนอล ที่จะลงแข่งในคืนนี้เป็นการชั่วคราว

ซิตี 10 คน แต่ครองบอลเหนือกว่า

สำหรับสถิติหลังเกมนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน แต่กลับมีเปอร์เซนต์การครองบอลที่เหนือกว่าทีมเยือนมาก (71 – 29) พร้อมกันนี้เจ้าบ้านมีโอกาสส่องประตูทั้งหมด 16 ครั้ง ตรงกรอบ 5 ครั้ง เป็นประตู 2 ประตู พร้อมกับการผ่านบอลสำเร็จที่ 642 ครั้งด้วยกัน ส่วนทางด้านทีมเยือนมีโอกาสทำประตู 4 ครั้ง ตรงกรอบ 2 ประตู ได้มา 1 ประตู ผ่านบอลสำเร็จทั้งหมด 232 ครั้งด้วย

สำหรับเกมนัดต่อไปนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี จะลงเล่นศึก อีเอฟแอล คัพ กับ เชลซี ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ส่วนทางด้านฟูแล่ม จะได้กลับไปเล่นที่สนามตัวเองอีกครั้งในเกม พรีเมียร์ ลีก โดยเป็นการต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565